วันจันทร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2556

รับซื้อใบวางบิลสินค้าทุกประเภท รับซื้อตั๋วจำนำ, เพชร, พลอย,ทองคำ


รับซื้อใบวางบิลสินค้าทุกประเภท รับซื้อตั๋วจำนำ, เพชร, พลอย,ทองคำ


ตั๋วจำนำ รับซื้อ 10-15% หักดอกเบี้ย ตามที่ค้างโรงจำนำจริง(เฉพาะ เพชร,พลอย,ทองคำ,
พระเลี่ยมทอง,พระทองคำ,เครื่องประดับ ฯลฯ) เช่น จำนำไว้ 1000+100 ดอกเบี้ย 60
คงเหลือเงิน 40 บาท ลงแล้วรับจำนำจริง ลงแล้วรับจริง ไม่เหมือนบางเว็บ ลงแล้วเงื่อนไข
เยอะ เลือกรับสินค้า ไม่จริงใจ

ใบวางบิล

บริษัท มหาชน ,บริษัท เอกชน ,งานราชการ ,งานบรรทุกสินค้าทุกชนิด

งานก่อสร้าง รับจ้างผลิตของทุกชนิด

เงื่อนไข





1.ต้องรับเงินผ่านเช็คเท่านั้น(สามารถเปลี่ยนผู้รับได้)



2.ผู้ขายใบวางบิลต้องมีเช็คบริษัทฯ ค้ำประกัน (เช็คจะต้องตรงกับใบวางบิล)





3.เป็นบริษัทฯ หรือห้างหุ้นส่วน ที่มีการจดทะเบียนการค้าถูกต้อง


 เอกสารประกอบ







1.สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชนกรรมการผู้มีอำนาจ




2.รายงานการประชุมผู้ถือหุ้น(ลงมติรับรองให้เปลี่ยนผู้รับเงิน)



3.สำเนาทะเบียนการค้า บริษัทฯ ห้างหุ้นส่วน(ไม่เกิน 1 เดือน)

4.เช็คบริษัทฯ ห้างหุ้นส่วน ลงนามประทับตรา โดยกรรมการผู้มีอำนาจ(เต็มวงเงินตามใบวางบิล)

5.แผนที่ตั้งบริษัทคู่ค้าและบริษัทเจ้าของใบวางบิล(อย่างละเอียด)




6.ใบวางบิล(ลายเซ็นครบเท่านั้น)



7.ใบมอบอำนาจรับเงิน

ค่าใช้จ่าย





2.ค่าเช็คประวัติและลงทะเบียนครั้งแรก แสนละ 1,000 บาท(ไม่ถึงแสนก็เก็บ 1,000.-)

   หัก ณ ที่จ่าย


3.ตรวจสอบเอกสารการวางบิลและว่าจ้างครั้งแรก 3 วัน ครั้งต่อไปรับได้ทันที

1.ดอกเบี้ยหัก ณ ที่จ่าย




   เมื่อเป็นสมาชิกมีประวัติแล้วครั้งต่อไป สามารถยื่นเอกสารแลกเงินได้ทันที


ตรวจสอบเอกสารครบ รับเงินทันที ไม่จำกัดวงเงิน

เตรียมเอกสารครบส่งมาที่ e-mail : chalamnoi@gmail.com



สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 0813734332
Line chalamnoi28 www.pawn.in.th

การเลือกซื้อทองคำ




การเลือกซื้อทองคำ


Gold Price by GTA / ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ
 ประจำวันที่ 05/04/2556 เวลา 11:36 น. (ครั้งที่ 2)
96.5%
รับซื้อ (บาท)
ขายออก (บาท)
ทองคำแท่ง
21,500.00
21,600.00
ทองรูปพรรณ
21,193.68
22,000.00


อิงจาก http://www.goldtraders.or.th/

ทอง
แบ่งเป็น
1 บาท 15.2 กรัม
3 สลึง หรือ 75 สตางค์ 11.4 กรัม
2 สลึง หรือ 50 สตางค์ 7.6 กรัม
1 สลึง 3.8 กรัม
1/2 สลึง 1.9 กรัม

ทองคำแท่ง
จะแบ่งออกเป็นหลายอย่างครับ เช่น
10 บาท, 5 บาท, 3 บาท, 2 บาท, 1 บาท, 50 สตางค์ หรือ 2 สลึง, 1 สลึง เป็นต้น
ราคารับซื้อ คือ ราคาที่ร้านทองจะซื้อจาก ลูกค้า
ราคาขายออก คือ ราคาที่ร้านทองจะขายให้ ลูกค้า

คำนวณ
ลูกค้า ซื้อ ทองคำแท่ง 10 บาท ในวันที่ 31/07/2555
ลูกค้าจะซื้อใน ราคา 24,200 x 10 = 242,000 บาท


ลูกค้า ขาย ทองคำแท่ง 10 บาท ในวันที่ 31/07/2555
ลูกค้าจะซื้อใน ราคา 24,100 x 10 = 241,000 บาท

สรุป ทองคำแท่ง มักซื้อไว้ลงทุนระยะยาว และ ราคาคงที่เมื่อขายคืนให้ร้านทองทั่วไป ร้านทองทุกร้าน ต้องอิง สมาคมทองคำแห่งประเทศไทย เท่านั้น

ทองคำรูปพรรณ
จะแบ่งออกเป็นหลายอย่างครับ เช่น
5 บาท, 3 บาท, 2 บาท, 1 บาท, 75 สตางค์ หรือ 3 สลึง, 50 สตางค์ หรือ 2 สลึง, 1 สลึง เป็นต้น
ราคารับซื้อ คือ ราคาที่ร้านทองจะซื้อจาก ลูกค้า
ราคาขายออก คือ ราคาที่ร้านทองจะขายให้ ลูกค้า

คำนวณ
ลูกค้า ซื้อ ทองคำรูปพรรณ 1 บาท ในวันที่ 31/07/2555
ลูกค้าจะซื้อใน ราคา 24,600 บาท บวก ลบ ประมาณ 100-200 บาท แล้วแต่ลายครับ ร้านทองมักจะพูดว่า ลายนี้แพง ค่ากำเหน็ด (ค่าแรง) แพง
แล้ว 1 หรือ 2 สลึง หละ ง่ายๆครับ ราคาทองคำแท่ง 24,200 บาท / 4 = 6050 บาท คือ 1 สลึง
ส่วน 2 สลึง 24,200 บาท / 2 = 12,100 บาท
ร้านทองจะขายในราคาจาก ทองคำแท่ง + ไป 300-800 แล้วแต่ลาย ครับ คือ
ทอง 1 สลึง 6050 + 300 ถึง 800 = 6350 ถึง 6850 บาท
ทอง 2 สลึง 12100 + 300 ถึง 800 = 12400 ถึง 12900 บาท
 ***แล้วแต่ความสามารถแต่ละคนครับ ว่าจะซื้อได้ แพง หรือ ถูกขนาดไหน

ลูกค้า ขาย ทองคำรูปพรรณ 1 บาท ในวันที่ 31/07/2555
ร้านทองจะซื้อใน ราคา 23,755.52 บาท ถ้าน้ำหนักเต็ม ร้านทองมักจะซื้อในราคา 23,300-23,800 บาท ร้านทอง เค้าจะอิงจากราคาทองคำแท่งครับ 24,100 บาท ราคาที่ร้านทองจะซื้อต้องขึ้นกับ น้ำหนัก เท่านั้น 1 บาท น้ำหนักจะอยู่ที่ 15.2 กรัม ครับ ถ้าน้ำหนักขาดเยอะ เช่นเหลือ 15.0 ราคาที่เราจะขายได้ ยิ่งได้น้อยตามไปด้วยครับ ทองจะดำ หรือ เน่าขนาดไหน ร้านทองไม่สนครับ ขอน้ำหนักอย่างเดียวครับ แต่น้ำหนักจะหายไปตามเวลาอยู่แล้วครับ + ตอนเราไปขายน้ำหนักจะได้ประมาณ 15.2 เพราะ น้ำหนักของทองจะบวกเหงื่อ สิ่งสกปรก และ ท่านใดที่ซื้อทองมานานมากๆ ก่อน ยุคทักษิณ เป็นรัฐบาล ประมาณ 10-15 ปี ที่แล้ว จะมีทองเขียว หรือ ทองผสมไม่ถึง 96.5 จะขายได้ในราคาต่ำมาก 24,100 บาท ลบไปอีก ประมาณ 1000+ ครับ

สรุป ทองคำรุปพรรณ ราคาซื้อ และ ขาย อิงกับลาย และ ค่ากำเหน็ดเป็นหลัก ง่ายๆ ส่วน ทอง 2 บาท ค่ากำเหน็ด จะแพงขึ้นครับ และ ทองที่น้อยว่า 1 บาท เช่น ทอง 2 สลึง 1 สลึง ราคา ค่ากำเหน็ด จะพอๆกันครับ บวกจาก ราคาทองคำแท่ง ราคาขาย ประมาณ 300-800 บาท ครับ ขึ้นอยู่กับร้านที่ซื้อ

เพิ่มเติม ทองคำรูปพรรณ
ร้านทองจะรู้ได้อย่างไรว่า ทองนั้นเป็นทองเขียว หรือ ทองผสม ง่ายๆ ครับ ทองทุกเส้นจะมี ตราประทับ อยู่ ร้านทองสามารถ เซ็ค ได้ว่า ทองเส้นนั้นทำจากบริษัทไหน บริษัทที่ไม่ผ่านคุณภาพ ร้านทองจะรู้ทันที่ ที่จำๆได้ น่าจะมีประมาณ 70-150 ร้าน ที่ผลิต ทองคำรูปพรรณในไทยครับ

เตรียมเอกสารครบส่งมาที่ e-mail : chalamnoi@gmail.com



สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 0813734332
Line chalamnoi28 www.pawn.in.th

จำนำทองคำ




จำนำทองคำ คือ เอาทองของเราที่มี ไปฝากไว้ที่ร้านทอง และ เอาเงิน มาหมุนใช้ในชีวิตประจำวัน โดยจะมีค่าฝาก หรือ ดอกเบี้ย ซึ่งเรา ต้องไปตัดดอก หรือ จ่ายดอกเบี้ย ทุกๆเดือน ก่อนที่เราจะสามารถไปไถ่ หรือ นำเงินต้นไป เอาทองเราออกมาครับ

ทองคำแท่ง หรือ ทองคำรูปพรรณ มีวิธีเหมือนกันครับ

ก่อนจะจำนำทอง สิ่งที่ควรเตรียม คือ
1. พกบัตรประชาชน หรือ passport ไปด้วย(ร้านที่รู้จักกันก็ไม่จำเป็นครับ)
2. นำทองไปด้วยครับ ^^
3. คิดตัวเลขในใจ ไว้ก่อนก็ดีนะครับ น้อยหรือมาก แล้วแต่

4. ดูร้านทองว่าร้านไหนค่อนข้าง ใจดี ซื่อสัตย์ เป็นกันเอง
5. อย่าเอาทองปลอม ไปหลอกร้านทองนะครับ แม่ค้าร้านทองเค้ารู้ครับ แค่จับก็รู้แล้วครับ อาจโดนจับยัดตารางได้

หลังจากที่เลือกร้านทองได้แล้ว

มีวิธีดังต่อไปนี้
1. เมื่อเข้าร้าน บอกแม่ค้า จำนำทอง
2. เอาทองไปให้แม่ค้าดู แล้วบอกแม่ค้า จะจำนำเท่าไหร่ หรือ ถ้าจะเอาราคามากที่สุดก็ถามแม่ค้า(ราคามากที่สุดจะลบจากราคาทองคำแท่งประมาณ 1000-1500 บาท)
3. ถาม ดอกเบี้ย และ วิธีจ่ายดอกอย่างไร ดอกเบี้ยทองแต่ละร้านไม่เท่ากันครับ 1%-4% ต่อเดือนครับ ขึ้นอยู่กับ จำนวณทองที่จะจำ กับ ร้าน ครับ
4. ถาม ถ้าไม่จ่ายดอกกี่เดือน ถึงจะยึดทอง ร้านส่วนใหญ่ 1 เดือนครับ แต่เดี่ยวนี้ร้านทองแข่งกันเยอะ อาจจะได้ 2 เดือน ถึง 6 เดือน ก็ว่าได้
5. ทำสัญญา ร้านทองทุกร้าน มีสมุดสัญญาแน่นอนครับ ใบเล็กๆ ตอนมาตัดดอก นำมากด้วย ไถ่ก็ต้องเอามาด้วย ถ้าไม่ได้มาเอง ฝากคนอื่นมาไถ่ต้องเอาบัตรประชาชนฝากมาด้วยนะครับ

เตรียมเอกสารครบส่งมาที่ e-mail : chalamnoi@gmail.com



สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 0813734332
Line chalamnoi28 www.pawn.in.th

วิธีวัดขนาดแหวนทอง

แหวนทอง

คนส่วนใหญ่นิยมใส่แหวนทอง 2 สลึง และ 1 สลึง น้ำหนักและเนื้อของทองพอดีสำหรับนิ้วมือ ส่วนแหวนทอง 1/2 สลึง จะขาดง่าย

วิธีวัดขนาดแหวนทอง

สำหรับคนที่ซื้อไปฝากแฟน ฝากเพื่อน ฝากครอบครัว จำเป็นต้องวัด Size ของนิ้วคนที่เราจะซื้อให้ เพราะตอนเราไปร้านขายทอง เราจะดูไม่ออกเลยว่า แหวนวงนี้ Size เท่าไหร่ แล้วคนที่เราจะซื้อให้จะใส่ได้พอดีหรือเปล่า ส่วนสำหรับตัวเราเอง เราก็สามารถขอเจ้าของร้านทองวัด Size นิ้วเราก็ได้ เพื่อคนอื่นถามอยากซื้อให้ ฮิๆ

 เส้นผ่าศูนย์กลาง ขนาดแหวน (Size)  
 15.3 มม. 48
 15.6 มม. 49
 16.0 มม. 50
 16.5 มม. 51
 17.0 มม. 52
 17.2 มม. 53
 17.5 มม. 54
 17.8 มม. 55
 18.0 มม. 56
 18.5 มม. 57
 18.8 มม. 58
 19.0 มม. 59
 20.0 มม. 60
 21.0 มม. 61
 21.5 มม. 62
 22.5 มม. 63

เตรียมเอกสารครบส่งมาที่ e-mail : chalamnoi@gmail.com



สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 0813734332
Line chalamnoi28 www.pawn.in.th

วันศุกร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2556

รับจำนำ ซื้อ ขาย ฝากขาย เบอร์สวยมือถือ

รับจำนำ ซื้อ ขาย ฝากขาย เบอร์สวยมือถือ


หลายคนคงคิดว่าเบอร์มือถือมีค่ามากแค่ไหนสามารถติดต่อเราได้ครับ เดือดร้อนเงินมีเบอร์สวยแต่ไม่อยากขายอยากฝากเบอร์ไว้กับเราก็ได้เพียงติดต่อมาที่ 0813734332
 แสดงราคาที่อยากจะได้มาแต่ขออย่างเดียวครับ อย่าเรียกแพงจนเกินไป ตัวอย่างเบอร์เช่น 081-XXX6666 ,081-XX66666, 081-X666666  ยินดีรับใช้และให้บริการทุกท่านเป็นอย่างดีและขอยืนยันว่าข้อมูลของท่านจะเป็นความรับขอเรา

เตรียมเอกสารครบส่งมาที่ e-mail : chalamnoi@gmail.com



สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 0813734332
Line chalamnoi28 www.pawn.in.th

วันอังคารที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2556

รับซื้อ-รับจำนำของเก่า รับซื้อของโบราณ รับซื้อเครื่องลายคราม รับซื้อเบญจรงค์ รับซื้อเครื่องเงินเก่า บริการแนะนำให้คำปรึกษาเพื่อแปลงสินทรัพย์เป็นทุน


รับซื้อ-รับจำนำของเก่า รับซื้อของโบราณ รับซื้อเครื่องลายคราม รับซื้อเบญจรงค์ รับซื้อเครื่องเงินเก่า บริการแนะนำให้คำปรึกษาเพื่อแปลงสินทรัพย์เป็นทุน 





เราเชี่ยวชาญในการรับซื้อของเก่า ของโบราณ เครื่องลายคราม เบญจรงค์ ชุดน้ำชา กาน้ำชา เครื่องเงิน ตู้ โต๊ะ ตั่ง เตียง ฯลฯ ซื้อเงินสดทันที ในราคาที่คุณพอใจ มีบริการให้คำปรึกษาด้านการขาย การกำหนดราคา มาที่นี่ไม่มีคำว่าผิดหวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาความลับลูกค้า คำนึงถึงชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของลูกค้าคนสำคัญเช่นคุณอย่างยิ่ง หากท่านที่สนใจไม่สะดวกในการเดินทาง ส่งรูปภาพทางมือถือที่ 081-3734332 หรืออีเมล์มาที่ chalamnoi@gmail.com เพื่อชมก่อนได้นะครับ

(เรียนผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน หากท่านส่งภาพมาให้ชมใน e-mail ขอความกรุณา แนบเบอร์ติดต่อกลับที่สะดวกมาพร้อมกับรูปสินค้าด้วยนะครับ เพื่อความรวดเร็วในการให้บริการ หากท่านที่สามารถส่งภาพทางมือถือได้ยิ่งดีครับ เพราะเราสามารถตีราคาและสามารถซื้อได้ทันทีครับ ขอบพระคุณครับ )

เราซื่อสัตย์ จริงใจ และยินดีบริการท่านเพื่อให้ได้ราคาที่สูงที่สุด โทรมาคุยกันก่อนก็ได้นะครับ หวังว่า หางานจะได้รับใช้ลูกค้าทุกท่าน


(ภาพในเวปเป็นเพียงตัวอย่างสินค้าบางส่วนเท่านั้น หากท่านมีสินค้าที่ไม่ตรงกับภาพในหน้าเวปไม่ต้องตกใจว่าจะไม่รับซื้อ ติดต่อมาคุยกันได้ครับ สินค้าที่ท่านมีอยู่อาจจะมีราคามากกว่าสินค้าที่โชว์ไว้ก็ได้นะครับ) 


(พิเศษสำหรับเครื่องลายคราม เบญจรงค์ และถมทอง เรารับจำนำในอัตราดอกเบี้ยต่ำ รายละเอียดโทรสอบถาม)*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด 

เตรียมเอกสารครบส่งมาที่ e-mail : chalamnoi@gmail.com



สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 0813734332

Line chalamnoi28 www.pawn.in.th

การนำทองปลอมมาจำนำ จำคุก 3 ปี


การนำทองปลอมมาจำนำ จำคุก 3 ปี

เตรียมเอกสารครบส่งมาที่ e-mail : chalamnoi@gmail.com



สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 0813734332
Line chalamnoi28 www.pawn.in.th

ลักษณะของสัญญาจำนำ


ลักษณะของสัญญาจำนำ



           มาตรา 747 อันว่าจำนำนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่า ผู้จำนำส่งมอบสังหาริมทรัพย์สิ่งหนึ่งให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่า ผู้รับจำนำ เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้

           สัญญาจำนำ คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่า ผู้จำนำ ส่งมอบ สังหาริมทรัพย์ให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งเป็นผู้ครอบครองเรียกว่า ผู้รับจำนำ เพื่อประกันการชำระหนี้ ทรัพย์สินที่จำนำได้คือ ทรัพย์สินที่สามารถเคลื่อนที่ ได้ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ ช้าง ม้า โค กระบือ และเครื่องทองรูปพรรณ สร้อย แหวน เพชร เป็นต้น ตัวอย่างเช่น นาย ก กู้เงินนาย ข จำนวน 50,000 บาท เอาแหวนเพชรหนึ่งวงมอบให้นาย ข ยึดถือไว้เป็นประกันการชำระหนี้เรียกว่า นาย ก เป็นผู้จำนำ และนาย ข เป็นผู้รับจำนำ ผู้จำนำอาจเป็นบุคคลภายนอก เช่น ถ้าแทนที่นาย ก จะเป็นผู้ส่งมอบแหวนเพชรให้เจ้าหนี้ กลับเป็นนาย ค ก็เรียกว่า เป็นผู้จำนำ ผู้จำนำไม่จำเป็นต้องเป็นลูกหนี้เสมอไป

          ตามมาตรานี้ได้กล่าวถึง จำนำเป็นสัญญาระหว่างผู้รับจำนำกับผู้จำนำ ซึ่งผู้จำนำต้องเป็นเจ้าของทรัพย์ที่จำนำด้วย เพราะการจำนำนั้นมีผลทำให้ผู้รับจำนำ เอาทรัพย์สินที่จำนำออกขายทอดตลาดได้ มาตรานี้ มีลักษณะสำคัญของสัญญาจำนำที่ควรพิจารณา 4  ประการ  คือ

            1.   บุคคลคนหนึ่งเรียกว่าผู้จำนำ กฎหมายไม่ได้กล่าวไว้ เช่นเดียวกับผู้ค้ำประกันต้องเป็นบุคคลภายนอก   ดังนั้น ผู้จำนำจะเป็นลูกหนี้หรือบุคคลภายนอกก็ได้

            2.   ผู้จำนำต้องส่งมอบทรัพย์สินที่จำนำให้แก่ผู้รับจำนำ เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้ของลูกหนี้ โดยไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสืออาจทำด้วยวาจาก็ได้ แต่สาระสำคัญอยู่ที่การส่งมอบทรัพย์สินที่จำนำ  เมื่อผู้รับจำนำทำให้ทรัพย์สินที่จำนำกลับมาอยู่ในความครอบครองของผู้จำนำ สัญญาจำนำย่อมระงับสิ้นไปเพราะได้ขาดสาระสำคัญของสัญญาจำนำไป        

             ในการทำสัญญาจำนำ ตามปกติผู้รับจำนำต้องเก็บรักษาทรัพย์สินที่เขาส่งมอบเป็นจำนำ  แต่บางกรณี คู่กรณีจะตกลงกันให้บุคคลภายนอกเก็บรักษาก็ได้  ดังบัญญัติใน มาตรา  749  บัญญัติว่า  “คู่สัญญาจำนำจะตกลงกันให้บุคคลภายนอกเป็นผู้เก็บรักษาทรัพย์สินที่จำนำไว้ก็ได้” เมื่อมีข้อตกลงกันตามหลักของกฎหมายดังกล่าว ผู้รับจำนำก็อาจไม่ต้องเก็บรักษาทรัพย์จำนำไว้ด้วยตนเองก็ได้

            คำพิพากษาฎีกาที่ 1451/2503 การจำนำ ไม่มีกฎหมายบังคับว่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ (อ้างฎีกาที่ 200/2496)

            คำพิพากษาฎีกาที่ 229/2522   (ประชุมใหญ่) การที่โจทก์กู้เงินและมอบโฉนดให้จำเลยยึดถือไว้เป็นประกันเงินกู้ ไม่เข้าลักษณะจำนำ กรณีไม่ต้องด้วยมาตรา 189 จำเลยไม่มีสิทธิยึดหน่วงโฉนดของโจทก์ไว้ต้องคืนให้โจทก์ (วรรคแรกวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 19/2521)

            3.  ทรัพย์ที่จำนำได้เฉพาะสังหาริมทรัพย์เท่านั้น  เพราะจำนำต้องมีการส่งมอบให้ครอบครองเช่น โทรทัศน์ วิทยุ แหวน ช้าง รถยนต์ เป็นต้น

            คำพิพากษาฎีกาที่ 2643/2531 ทรัพย์สินที่จำนำได้นั้นต้องเป็นสังหาริมทรัพย์ แต่สิทธิการเช่าอาคารไม่ใช่สังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 101 จึงไม่อาจจำนำกันได้

            4.   ทรัพย์ที่จำนำส่งมอบให้แก่เจ้าหนี้เพื่อประกันการชำระหนี้ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ เพื่อการชำระหนี้ ดังนั้นต้องมีหนี้ประธานระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้เกิดขึ้นเสียก่อน  สัญญาซึ่งผู้จำนำได้ทำกับเจ้าหนี้เรียกได้ว่าเป็นสัญญาอุปกรณ์  ถ้าไม่มีหนี้ประธานหรือหนี้ประธานเสื่อมเสียไปไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม การจำนำก็ตกเป็นอันเสื่อมเสียด้วยเช่นกัน  ดังนั้น การส่งมอบต้องมีเจตนาส่งมอบ เพื่อการประกันการชำระหนี้   มิฉะนั้นมิใช่สัญญาจำนำ

            คำพิพากษาฎีกาที่ 1560/2527 การที่โจทก์ให้จำเลยกู้เงินไปเพื่อซื้อหุ้นของบริษัท โจทก์เอง โดยโจทก์ ยึดถือหุ้นนั้นไว้เป็นจำนำหรือเป็นประกัน เงินที่โจทก์ทดรองจ่ายซื้อหุ้น หรือโจทก์ให้จำเลยกู้เงิน จากบริษัทในเครือของบริษัทโจทก์โดยเงิน ที่กู้เป็นเงิน ของบริษัทโจทก์ให้บริษัทในเครือดังกล่าวกู้ไปให้จำเลย กู้ อีกต่อหนึ่งทั้งหุ้นที่จำเลยจำนำแก่บริษัทในเครือ ดังกล่าวโจทก์เป็น ผู้ยึดถือไว้เอง พฤติการณ์เช่นนี้ถือ ได้ว่าโจทก์

 เป็นผู้ให้จำเลยกู้ยืมเงินไปซื้อหุ้นของ บริษัทโจทก์และโจทก์รับจำนำหุ้นของตนเองเป็นประกัน เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1143 ทั้งต่อมาพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุนธุรกิจหลักทรัพย์และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522 มาตรา 20(3) บัญญัติห้ามมิให้บริษัทเงินทุน รับหุ้นของ บริษัทเงินทุนนั้นเองเป็นประกันหรือรับหุ้นของบริษัทเงินทุน จากบริษัทเงินทุนอื่นเป็นประกันอีกด้วย การกระทำของ โจทก์จึงตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113 (มาตรา 150ใหม่) ไม่มีผลบังคับโจทก์จะอ้างเป็นมูลเรียกร้องให้ จำเลยชดใช้เงินที่โจทก์ฟ้องมิได้

            5. ผู้จำนำต้องเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่จำนำ

            คำพิพากษาฎีกาที่ 449/2519 จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 เอารถยนต์ของโจทก์ไปมอบให้จำเลยที่ 3 ยึดไว้เป็นประกันหนี้ของตนโดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ และไม่ปรากฏว่าโจทก์รู้เห็นด้วยกับการกระทำของจำเลยการจำนำนั้นไม่ผูกพันโจทก์ผู้เป็นเจ้าของ กา


เตรียมเอกสารครบส่งมาที่ e-mail : chalamnoi@gmail.com



สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 0813734332
Line chalamnoi28 www.pawn.in.th

การจำนำ คือ อะไร


การจำนำ



การจำนำ คือ การที่บุคคลคนหนึ่งเรียกว่า “ผู้จำนำ” นำสังหาริมทรัพย์ไปส่งมอบให้อยู่ในความครอบครองของบุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่า “ผู้รับจำนำ” เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้ที่ผู้จำนำเป็นหนี้ผู้รับจำนำ (ป.พ.พ. มาตรา 747)
ตัวอย่าง นาย ก. ได้กู้เงินนาย ข. เป็นเงิน 3,000 บาท โดยนาย ก. มอบสร้อยคอทองคำให้นาย ข. ยึดถือไว้ เพื่อเป็นหลักประกันในการชำระหนี้เงินกู้ 3,000 บาทของนาย ก. สัญญาเช่นนี้ เรียกว่า สัญญาจำนำ


ทรัพย์สินที่จะใช้การจำนำได้

ทรัพย์สินที่จะใช้จำนำได้แก่ “สังหาริมทรัพย์” ทุกชนิด
“สังหาริมทรัพย์” ได้แก่ ทรัพย์สินทั้งหลายซึ่งอาจเคลื่อนจากที่หนึ่งไปแห่งอื่นได้เช่น รถยนต์, นาฬิกา , แหวน , สร้อย ฯลฯ

สิทธิของผู้รับจำนำ
ผู้รับจำนำมีสิทธิยึดของที่จำนำไว้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้คืนแล้วจนครบถ้วน (ป.พ.พ. มาตรา 758)
สิทธิการจำนำมีขอบเขตเพียงใด
การจำนำย่อมเป็นประกันเพื่อการชำระหนี้ดังต่อไปนี้คือ
1. ต้นเงิน
2. ดอกเบี้ย
3. ค่าเสียหายในการไม่ชำระหนี้
4. ค่าธรรมเนียมในการบังคับจำนำ
5. ค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาทรัพย์สินที่จำนำ
6. ค่าทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดจากความชำรุดบกพร่องของทรัพย์ที่จำนำ ซึ่งผู้รับจำนำมองไม่เห็นในวันรับจำนำนั้น

เมื่อหนี้ถึงกำหนดชำระแล้ว หากลูกหนี้ (ผู้จำนำ) ผิดนัดไม่ยอมชำระหนี้ ผู้รับจำนำต้องบังคับจำนำทรัพย์ที่จำนำนั้น ผู้รับจำนองจะยึดถือเอาทรัพย์จำนำหลุดเป็นของตนเองโดยไม่มีการบังคับจำนำไม่ได้

การบังคับจำนำ

มีวิธีการดังต่อไปนี้คือ
1. ผู้รับจำนำต้องบอกกล่าวเป็นหนังสือไปยังลูกหนี้ก่อนว่า ให้ลูกหนี้จัดการชำระหนี้รวมทั้งดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายต่างๆ ดังได้กล่าวมาแล้วภายในเวลาอันสมควรซึ่งได้กำหนดไว้ในหนังสือบอกกล่าวดังกล่าว
2. ถ้าลูกหนี้ละเลยไม่ชำระหนี้ภายในกำหนดเวลาตามคำบอกกล่าว ผู้รับจำนำมีสิทธินำเอาทรัพย์สินที่จำนำออกขายทอดตลาดได้
3. ผู้รับจำนำต้องมีหนังสือบอกกล่าวให้ผู้จำนำทราบถึงวันที่จะขายทอดตลาดและสถานที่ที่จะทอดตลาด

ข้อยกเว้น
แต่ถ้าลูกหนี้ค้างชำระเกินกว่าเวลาที่กำหนด 1 เดือน และไม่สามารถจะบอกกล่าว ก่อนได้ผู้รับจำนำไม่ต้องบอกกล่าวให้ลูกหนี้ทราบก่อนแต่อย่างใด ผู้รับจำนำมีอำนาจนำทรัพย์สินออกขายทอดตลาดได้ทันที (ป.พ.พ. มาตรา 765)

ตัวอย่าง นาย ก. ได้กู้เงิน นาย ข. 1 หมื่นบาท กำหนดชำระคืนภายใน 3 เดือน โดยนำแหวนเพชรไปจำนำไว้กับนาย ข. ครั้นเวลาล่วงมาเป็นเวลา 4 เดือนแล้ว นาย ก. ก็ยังไม่นำเงินไปชำระคืนและไม่ทราบว่านาย ก. ได้ย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ที่ใด นาย ข. มีสิทธินำแหวนเพชรดังกล่าวออกขายทอดตลาดได้เลยโดยไม่ต้องบอกกล่าวให้นาย ก. ทราบก่อนแต่อย่างใด

ข้อตกลงกันไว้ล่วงหน้าว่าถ้าลูกหนี้ผิดนัดแล้วให้ทรัพย์ดังกล่าวตกเป็นของผู้รับจำนำโดยไม่ต้องมีการบังคับจำนำ นั้น ข้อตกลงเช่นนี้ย่อมไม่สมบูรณ์ไม่มีผลบังคับได้ กล่าวคือกฎหมายบังคับให้ต้องมีการบังคับจำนำด้วยวิธีการที่กล่าวมาแล้วเท่านั้น ผู้รับจำนำจะใช้สิทธิยึดเอาทรัพย์ที่จำนำหลุดเป็นของตนเองไม่ได้

ตัวอย่าง นาย ก. ไปกู้เงินจาก นาย ข. เป็นเงิน 1 หมื่นบาท โดยนำแหวนเพชรประจำตระกูลไปจำนำไว้กับนาย ข. กำหนดชำระหนี้คืนภายใน 3 เดือน โดยมีข้อตกลงว่าหากถึงกำหนดแล้ว นาย ก. ยังไม่ชำระหนี้ให้แหวนนั้นตกเป็นกรรมสิทธิของนาย ข. ทันที ครบกำหนด 3 เดือนแล้ว นาย ก.ผิดนัดไม่นำเงินมาชำระต่อมาอีก 3 วันหลังครบกำหนดแล้ว นาย ก. หาเงินมาใช้หนี้ให้แก่นาย ข. และขอไถ่แหวนคืน แต่นาย ข. ไม่ยอมให้อ้างว่าครบกำหนดแล้ว นาย ก. ไม่นำเงินมาชำระแหวนดังกล่าวจึงตกเป็นกรรมสิทธิของตนแล้วตามข้อตกลง จะได้หรือไม่

กฎหมายได้กำหนดไว้แล้วว่าข้อตกลงดังกล่าวไม่สมบูรณ์ไม่มีผลบังคับ ดังนั้น แหวนดังกล่าวจึงยังเป็นกรรมสิทธิของนาย ก. อยู่หาได้ตกเป็นกรรมสิทธิของนาย ข. ตามที่กล่าวอ้างไม่ นาย ข. จะต้องรับชำระหนี้และคืนแหวนให้แก่ นาย ก. ไป
เมื่อขายทอดตลาดได้เงินมาแล้วต้องดำเนินการอย่างไร

เมื่อขายทอดตลาดได้เงินสุทธิเท่าใด ผู้รับจำนำมีสิทธิหักเงินดังกล่าวเพื่อชำระหนี้คืนแก่ตนได้จนครบถ้วน หากมีเหลือเท่าใด ผู้รับจำนำต้องส่งคืนให้แก่ผู้จำนำไป

แต่ถ้าเงินที่ขายทอดตลาดได้เงินไม่พอชำระหนี้คืนแล้ว เงินยังขาดอยู่เท่าใดผู้จำนำต้องใช้คืนให้แก่ผู้รับจำนำครบถ้วน
(ป.พ.พ. มาตรา 767)

ตัวอย่าง นาย ก. นำแหวนเพชรไปจำนำไว้กับนาย ข. เป็นเงิน 1 หมื่นบาท แล้วนาย ก. ผิดนัดไม่ชำระหนี้ นาย ข. จึงบังคับนำแหวนเพชรออกขายทอดตลาดได้เงินเพียง 5,000 บาท นาย ก. ยังต้องรับผิดชอบชดใช้เงินที่ยังขาดอยู่อีก 5,000 บาท ให้แก่นาย ข. จนครบถ้วน
ถ้าในระหว่างจำนำผู้รับจำนำส่งมอบทรัพย์ที่จำนำคืนให้แก่ผู้จำนำแล้วจะมีผลอย่างไร

ถ้าในระหว่างจำนำผู้รับจำนำส่งมอบทรัพย์สินที่จำนำคืนให้แก่ผู้จำนำแล้ว กฎหมายให้ถือว่าการจำนำนั้นระงับไป ผู้รับจำนำจะใช้สิทธิในการบังคับจำนำเอาทรัพย์นั้นอีกไม่ได้ คงทำได้แต่เพียงฟ้องร้องบังคับตามหนี้ที่ลูกหนี้เป็นหนี้ค้างชำระแก่ตนได้เท่านั้น

เตรียมเอกสารครบส่งมาที่ e-mail : chalamnoi@gmail.com



สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 0813734332
Line chalamnoi28 www.pawn.in.th